ข่าวประชาสัมพันธ์

กรมควบคุมโรค เผยโรคฝีดาษลิงติดจากสัตว์สู่คนได้ แม้มีโอกาสติดน้อยแต่ต้องเฝ้าระวัง พร้อมแนะวิธีการป้องกัน

 กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข เตือนประชาชน ให้เฝ้าระวังและป้องกันโรคฝีดาษลิง (Monkeypox) ซึ่งเป็นโรคติดต่อจากสัตว์สู่คน และติดจากคนสู่คนได้ โรคนี้พบมากในประเทศแถบแอฟริกากลางและแอฟริกาตะวันตก ได้แก่ แคเมอรูน สาธารณรัฐแอฟริกากลาง คองโก กาบอง ไลบีเรีย ไนจีเรีย และเซียร์ราลีโอน การพบผู้ป่วยในประเทศนอกเขตแอฟริกา เช่น สหรัฐอเมริกา อิสราเอล สิงคโปร์ และสหราชอาณาจักร มักเกิดจากการเดินทางระหว่างประเทศหรือการนำเข้าสัตว์ที่ติดเชื้อ   ติดตามรายละเอียดเพิ่มเติม https://ddc.moph.go.th/brc/news.php?news=25415&deptcode=

จังหวัดชัยนาท ได้รับการคัดเลือก เป็นตัวแทน ระดับภาคกลางและภาคตะวันออก เข้าประกวดผลงานจังหวัด TO BE NUMBER ONE รักษามาตรฐานพร้อมเป็นต้นแบบระดับเงินปีที่ 1 ในระดับประเทศ ประจำปี 2565

วันที่ 3 พฤษภาคม 2565 ณ โรงแรมเอเชียแอร์พอร์ท จังหวัดปทุมธานี นายนที มนตริวัต รองผู้ว่าราชการจังหวัดชัยนาท นายแพทย์พัลลภ ยอดศิรจินดา นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดชัยนาท ดร.วินัย​ ตะปะสา ศึกษาธิการจังหวัดชัยนาท และนางรัชนีกร ปิ่นแก้ว แรงงานจังหวัดชัยนาท เข้าร่วมนำเสนอผลการดำเนินงานในการประกวดผลงานโครงการ TO BE NUMBER ONE ระดับภาคกลางภาคตะวันออก ประจำปี 2565 และร่วมให้กำลังใจแก่คณะผู้เข้านำเสนอผลงานชมรม TO BE NUMBER ONE ของจังหวัดชัยนาท ประกอบด้วย ประเภทจังหวัด TO BE NUMBER ONE ประเภทอำเภอ TO BE NUMBER ONE ได้แก่ อำเภอสรรคบุรี และประเภทชุมชน TO BE NUMBER ONE ของอำเภอเนินขาม ผลการประกวด ประเภทจังหวัด TO BE NUMBER ONE ระดับภาคกลางและภาคตะวันออก ประจำปี 2565 จังหวัดชัยนาท ได้รับการคัดเลือก เป็นตัวแทนประกวดผลงานโครงการ TO BENUMBER ONE ระดับภาคกลางและภาคตะวันออก ที่รักษามาตรฐานพร้อมเป็นต้นแบบระดับเงินปีที่ 1 ในระดับประเทศ ประจำปี 2565 และคณะกรรมการตัดสินการประกวดระดับประเทศจะเดินทางมาเยี่ยมชมการดำเนินงาน จังหวัด TO BE NUMBER ONE ที่ผ่านการคัดเลือก เพื่อเก็บคะแนน และเข้าประกวดในระดับประเทศ ในงานมหกรรม TO BE NUMBER ONE ประจำปี 2565 ต่อไป

สธ.ชัยนาทเตือน ระวังโรคฮีทสโตรกภัยร้ายที่มากับความร้อน ระวัง เด็ก ผู้สูงอายุ

              นพ.พัลลภ  ยอดศิรจินดา นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดชัยนาท  เปิดเผยว่า ช่วงนี้เป็นฤดูร้อนอากาศร้อนจัด โรคลมแดด(โรคฮีทสโตรก) เป็นอาการที่เกิดจากการได้รับความร้อนมากเกิน อาการสำคัญ ได้แก่  ตัวร้อนจัด ชีพจรเต้นเร็ว กระสับกระส่าย ระดับความรู้สึกตัวลดลง หมดสติ ชักเกร็ง     โดยกลไกการทำงานของร่างกายหลังจากที่ได้รับความร้อน จะมีการปรับตัวโดยส่งน้ำหรือเลือดไปเลี้ยงอวัยวะภายใน เช่น สมอง ตับ และกล้ามเนื้อ เป็นต้น ทำให้ผิวหนังขาดน้ำไปหล่อเลี้ยง จึงไม่สามารถระบายความร้อนออกจากร่างกายได้ ทำให้อุณหภูมิร่างกายสูงขึ้นเรื่อยๆ  สัญญาณสำคัญของโรคนี้คือ ไม่มีเหงื่อออก ตัวร้อนจัด ผู้ที่เป็นจะกระหายน้ำมาก ปวดศีรษะ มึนงง วิงเวียน คลื่นไส้ หายใจเร็ว อาเจียน   ซึ่งต่างจากการเป็นลมแดดทั่วๆ ไป ที่จะพบมีเหงื่อออกด้วย เมื่อเกิดอาการดังกล่าวจะต้องรีบหยุดพัก  ถ้าไม่ได้รับการดูแลรักษาทันท่วงทีจะทำให้เสียชีวิตได้               นพ.พัลลภ  กล่าวต่อ การช่วยเหลือผู้ที่มีอาการดังกล่าว ให้นำผู้ป่วยเข้าร่ม จัดให้นอนราบ   คลายเสื้อผ้าออก ใช้ผ้าชุบน้ำเย็นประคบตามร่างกาย  ใช้พัดลมช่วยเป่าระบายความร้อน หรือเทน้ำเย็นราดลงบนตัวเลย เพื่อลดอุณหภูมิของร่างกายให้ต่ำลงโดยเร็วที่สุด และรีบนำส่งโรงพยาบาลเพื่อรับการรักษาทันทีประชาชนที่เป็นกลุ่มเสี่ยงร่างกายขาดน้ำได้แก่  เด็ก ผู้สูงอายุ เนื่องจากร่างกายไม่สามารถระบายความร้อนได้ดีเท่าคนหนุ่มสาว ผู้ที่มีโรคประจำตัวได้แก่ โรคความดันโลหิตสูง ที่ต้องกินยาควบคุมความดัน เช่น ยาขับปัสสาวะ ซึ่งมีผลขับสารโซเดียมออกจากร่างกาย ทำให้มีโอกาสเกิดความผิดปกติของระดับเกลือแร่ได้เร็วกว่าผู้อื่น รวมทั้งผู้ที่เป็นโรคอ้วน หรือผู้ที่อดนอน เนื่องจากจะทำให้ร่างกายตอบสนองต่อความร้อนที่ได้รับช้ากว่าปกติ ส่วนผู้ที่ดื่มสุรา ร่างกายจะมีโอกาสสูญเสียน้ำและเกลือแร่สูงกว่าผู้ที่ไม่ได้ดื่ม เพื่อขับแอลกอฮอล์ออกจากร่างกาย การปรับสภาพร่างกายเพื่อป้องกันอันตรายในช่วงที่มีอากาศร้อนจัด ที่สำคัญที่สุดคือการดื่มน้ำสะอาดให้เพียงพอ โดยปกติควรดื่มน้ำให้ได้ 2 ลิตรต่อวัน เพราะน้ำเป็นตัวควบคุมอุณหภูมิของร่างกาย ส่วนผู้ที่ออกกำลังกายเสียเหงื่อมากๆ ควรกินอาหารที่มีโพแทสเซียม เช่น น้ำผลไม้ หรือผลไม้ต่างๆ เป็นประจำด้วย  ถ้ามีอาการรุนแรงหรือหมดสติให้รีบนำส่งโรงพยาบาลทันที หรือโทรสายด่วน 1669

สธ.ชัยนาท "เตรียมป้องกัน"อุบัติเหตุทางถนน-ลดเสี่ยงโควิด-19” ช่วงสงกรานต์ 2565

วันนี้(วันที่ 11 เมษายน 2565) นพ.พัลลภ  ยอดศิรจินดา นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดชัยนาท เปิดเผยว่า การดำเนินงานตามแผนบูรณาการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนน ช่วงเทศกาลสงกรานต์ 2565 (7 วันอันตราย) เริ่มตั้งแต่วันที่ 11- 17 เมษายน 2565 ในหัวข้อการรณรงค์ “ชีวิตวิถีใหม่ ขับขี่ปลอดภัย ไร้อุบัติเหตุ” โดยให้หน่วยงานในสังกัดเตรียมความพร้อม การดำเนินงานป้องกันและแก้ไขปัญหา อุบัติเหตุทางถนนช่วงเทศกาลสงกรานต์ 2565 ให้โรงพยาบาลทุกแห่ง เตรียมห้องฉุกเฉินคุณภาพ ศูนย์รับแจ้งเหตุและสั่งการแจ้งเหตุเร็ว หมายเลข 1669 ทีมปฏิบัติการแพทย์ฉุกเฉินภาครัฐและเอกชนทุกระดับ จัดทีมแพทย์ พยาบาล เจ้าหน้าที่เวชกิจฉุกเฉิน และเจ้าหน้าที่อื่น ๆ ห้องผ่าตัด ไอซียู สำรองเตียง เลือด ออกซิเจน อุปกรณ์การแพทย์ ศูนย์ส่งต่อ และรถพยาบาลมาตรฐาน พร้อมพนักงานขับรถยนต์ที่ผ่านการอบรมและขับรถตามกฎจราจร ให้การดูแลประชาชนที่เดินทางกลับภูมิลำเนาและท่องเที่ยวตลอด 24 ชั่วโมง นอกจากนี้ ให้เจ้าหน้าที่สาธารณสุข และอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน (อสม.) ร่วมปฏิบัติงานกับหน่วยงานในพื้นที่ในการตั้งด่านควบคุมพฤติกรรมเสี่ยงเช่น ด่านชุมชน เพื่อสกัดผู้ดื่มแล้วขับไม่ให้ออกจากหมู่บ้าน  และขอความร่วมมือผู้ประกอบการปฏิบัติตามกฎหมายเรื่องสถานที่และเวลาห้ามจำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ห้ามขายให้เด็กอายุต่ำกว่า 20 ปี นพ.พัลลภ  กล่าวต่อว่า ช่วงเทศกาลสงกรานต์ที่จะถึงนี้ ประเทศไทยยังคงอยู่ในสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 กระทรวงสาธารณสุขมีความห่วงใยประชาชน อยากให้เดินทางกลับภูมิลำเนาหรือท่องเที่ยวอย่างปลอดภัย อยู่ร่วมกับครอบครัวอย่างอบอุ่นและมีความสุข จึงขอให้ยึดหลัก ขับไม่ดื่ม ดื่มไม่ขับ เพื่อความปลอดภัยทั้งของตนเองและเพื่อนร่วมทาง เข้มมาตรการป้องกันโควิด-19 โดยสวมหน้ากากอนามัย หมั่นล้างมือ ตรวจ ATK ก่อนกลับบ้านพบญาติผู้ใหญ่ เพื่อป้องกันการแพร่กระจายเชื้อ เมื่อกลับถึงบ้านแล้วให้ยึดมาตรการ D-M-H-T-T กับบุคคลในครอบครัวอย่างเคร่งครัด รดน้ำขอพร รับประทานอาหาร ฉลองกันในครอบครัว หลีกเลี่ยงการออกไปสังสรรค์นอกบ้าน เพราะอาจนำเชื้อโรคกลับมาติดผู้สูงอายุในครอบครัวได้

สธ.ชัยนาท เชิญชวนประชาชนรับวัคซีนกระตุ้นเข็ม 3 “ลดป่วย ลดตาย สู้ไวรัสกลายพันธุ์” เพื่อรับเทศกาลสงกรานต์ปลอดภัย ห่างไกลโควิด - 19

นพ.พัลลภ  ยอดศิรจินดา  นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดชัยนาท  เปิดเผยว่า  เดือนเมษายน      ที่กำลัง จะถึงเป็นเทศกาลสงกรานต์ซึ่งถือเป็นวันปีใหม่ไทย  ประชาชนจำนวนมากเดินทางกลับภูมิลำเนาเพื่อรดน้ำดำหัวผู้สูงอายุและท่องเที่ยว รวมทั้งมีการเลี้ยงสังสรรค์ภายในครอบครัว และจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด -19  มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นหลังโรคโควิด-19  มีเชื้อกลายพันธุ์สายพันธุ์  โอมิครอนที่สามารถแพร่ระบาดได้เร็วขึ้น โดยมีปัจจัยเสี่ยงจากการสัมผัสใกล้ชิดกับผู้ติดเชื้อในครอบครัว และคนรู้จัก ขณะทำกิจกรรมร่วมกัน รวมทั้งจากการรวมกลุ่มกิจกรรมทางสังคม เช่น งานศพ งานแต่งงาน งานบุญ งานเลี้ยงสังสรรค์ต่าง ๆ สำหรับผู้เสียชีวิตส่วนใหญ่ยังคงเป็นกลุ่ม 608 รวมทั้งกลุ่มที่ยังไม่ได้รับวัคซีนเข็มกระตุ้น (Booster dose)  และการฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 ครบ 2 เข็มอาจมีประสิทธิผล    ในการป้องกันการติดเชื้อลดลงเมื่อช่วงเวลาผ่านไป และไม่เพียงพอที่จะป้องกันการติดเชื้อโควิด สายพันธุ์โอมิครอนได้ จึงจำเป็นต้องได้รับวัคซีนกระตุ้นเข็มที่ 3   จึงขอเชิญชวนประชาชนเข้ารับการฉีดวัคซีน      โดยขอให้ผู้ที่รับวัคซีนครบ 2 เข็มแล้วครบระยะเวลารับวัคซีนกระตุ้นเข็ม 3 ให้เร่งฉีดวัคซีน  เข็ม 3 ผู้สูงอายุและผู้ที่มีโรคเรื้อรังที่ยังไม่ได้รับวัคซีนเลย รับการฉีดวัคซีนเข็มที่ 1 เพื่อเพิ่มภูมิคุ้มกัน โดยสามารถติดต่อขอรับการฉีดวัคซีน ได้ที่สถานบริการสาธารณสุขใกล้บ้านทุกแห่ง หรือสามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดชัยนาท โทร. 083-069-1823 093-008-5968 093-008-5927  (ในวันและเวลาราชการ)        

ตำรวจสอบสวนกลาง ร่วม อย. ทลายแหล่งผลิตยาน้ำสมุนไพรเถื่อนผสมสเตียรอยด์สุดอันตราย มูลค่าของกลางกว่า 10 ล้านบาท

ตำรวจสอบสวนกลาง ร่วม อย. ทลายแหล่งผลิตยาน้ำสมุนไพรเถื่อนผสมสเตียรอยด์สุดอันตราย มูลค่าของกลางกว่า 10 ล้านบาท #oryor #FDAthai #FDAnews #อย #ตำรวจสอบสวนกลาง #ยาน้ำสมุนไพรเถื่อน #ยากษัยเส้นปู่แดง #ผสมสเตียรอยด์  #อวดอ้างสรรพคุณ  สามารถติดตามข่าวสารดี ๆ ต่อได้ที่ >>https://oryor.com/อย/detail/media_news/2249 ไม่อยากพลาดข้อมูลข่าวสารสุขภาพดี ๆ จาก อย. มาเป็นเพื่อนไลน์กับเราได้ที่ Line : @FdaThai เพียงแค่คลิก https://line.me/R/ti/p/Hik9-DvLsP

14 – 31 มีนาคม 65 จังหวัดชัยนาท รณรงค์เคาะประตูบ้าน ฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 เข็ม 1 เข็ม 3 ให้ผู้สูงอายุและผู้ป่วย 7 กลุ่มโรคเรื้อรัง ลดอาการป่วยหนักและเสียชีวิต

นายแพทย์พัลลภ ยอดศิรจินดา  นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดชัยนาท  เปิดเผยว่า ข้อมูลจากกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข พบว่าผู้สูงอายุที่เสียชีวิตจากการระบาดโอไมครอนระลอกนี้ ตั้งแต่ 1 มกราคม – 28 กุมภาพันธ์ 2565 พบว่าผู้เสียชีวิตร้อยละ 75 เป็นผู้สูงอายุมากกว่า 60 ปี โดยผู้สูงอายุ    ที่ฉีดวัคซีนครบ 3 เข็ม มีอัตราเสียชีวิตลดลง 41 เท่า เมื่อเทียบกับฉีด 2 เข็ม จึงได้จัดการรณรงค์      เคาะประตูบ้าน ในวันที่  14 – 31 มีนาคม 2565   เพื่อฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 เข็ม 1 เข็ม 3 ให้ประชากรกลุ่ม 608 (ผู้สูงอายุและผู้ป่วย 7 กลุ่มโรคเรื้อรัง)  เพื่อลดอาการป่วยหนักและเสียชีวิต จึงขอเชิญผู้สูงอายุ และประชากรกลุ่มเสี่ยงที่ได้รับการฉีดวัคซีนเข็ม 2 ครบระยะแล้วรับการฉีดวัคซีนกระตุ้นเข็ม 3 และผู้สูงอายุและผู้ที่มีโรคเรื้อรังที่ยังไม่ได้รับทั้ง เข็ม 1 และเข็ม 3  รับการฉีดเข็ม 1 เพื่อลดการเสี่ยงเจ็บป่วย   รุนแรงและเสียชีวิต ซึ่งการที่ทุกคนในครอบครัวได้รับวัคซีนโควิด-19 เพื่อสร้างภูมิคุ้มกันให้แก่ร่างกาย ติดต่อขอรับบริการที่ รพ.สต.หรือหน่วยบริการสาธารณสุขใกล้บ้าน สามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดชัยนาท โทร. 083-069-1823 093-008-5968 093-008-5927

สธ.ชัยนาท แนะ วันมาฆบูชาประชาชนเข้าวัดทำบุญ เวียนเทียน คุมเข้มมาตรการ COVID Free Setting ลดเสี่ยงโควิด-19

วันนี้(วันที่ 15 กุมภาพันธ์ 2565) นายแพทย์พัลลภ  ยอดศิรจินดา นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดชัยนาท เปิดเผยว่า  การจัดงานในวันมาฆบูชา ต้องเป็นไปตามมาตรการ COVID Free Setting โดยจัดให้มีจุดคัดกรอง  ผู้เข้ามาร่วมงาน กำหนดระยะห่างระหว่างบุคคล โดยเฉพาะช่วงฟังเทศนาธรรม ทำบุญถวายสังฆทาน พิธีเวียนเทียน มีการจัดอาหารแบบแยกชุด รวมถึงการดูแลความสะอาดของสถานที่ และให้เปิดโล่ง เพื่อการระบายอากาศที่ดี ส่วนประชาชนที่ร่วมงาน และเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงาน ต้องป้องกันตนเองขั้นสูงสุดด้วยหลัก UP–DMHTA พร้อมทั้งคัดกรองความเสี่ยงตนเองทุกวันผ่านระบบ “ไทยเซฟไทย” หากมีไข้ ไอ หรือมาจากพื้นที่เสี่ยง ควรงดออกจากบ้าน เพื่อลดการแพร่กระจายของเชื้อโควิด-19 สำหรับกลุ่มเปราะบางที่มีความเสี่ยงสูง เช่น เด็กเล็ก คนท้อง ผู้สูงอายุหรือผู้ที่มีโรคประจำตัว แนะนำให้หลีกเลี่ยงการทำบุญที่วัด ให้ทำบุญผ่านช่องทางออนไลน์ต่าง ๆ เช่น ทำบุญผ่าน QR Code (e-Donation)  และเปลี่ยนเป็นการเวียนเทียนออนไลน์แทน ก็เป็นการสั่งสมบุญ และสร้างความสุขทางใจได้เช่นเดียวกัน

สธ.ชัยนาท แนะเยาวชนวันวาเลนไทน์ปีนี้ ยึดหลัก Start Safe SEX, Use Condom : รักปลอดภัยเริ่มที่ "ถุงยางอนามัย"

          วันนี้ 11 กุมภาพันธ์ 2565  นายแพทย์พัลลภ  ยอดศิรจินดา นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดชัยนาท เปิดเผยว่า เทศกาลแห่งความรัก 14 กุมภาพันธ์ของทุกปี มักมีการแสดงความรักให้กัน การมอบของขวัญ ดอกไม้ ช็อกโกแลต รวมทั้งการแสดงออกถึงความรักด้วยการมีเพศสัมพันธ์ และโดยเฉพาะวัยรุ่นบางส่วนที่ตัดสินใจมีเพศสัมพันธ์โดยไม่ป้องกันด้วยถุงยางอนามัย ซึ่งอาจทำให้เกิดการตั้งครรภ์โดยไม่พร้อมหรือติดโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ได้   จึงแนะนำหลัก Start Safe SEX, Use Condom :  รักปลอดภัยเริ่มที่ "ถุงยางอนามัย"เพื่อเป็นแนวทางให้กับเยาวชนได้เห็นถึงความสำคัญในการป้องกันตนเองและคู่ให้ปลอดภัยจากโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์และเอชไอวี ตลอดจนส่งเสริมการใช้ถุงยางอนามัยให้เป็นเรื่องปกติในการดูแลสุขภาวะทางเพศ รวมถึงการมีความรับผิดชอบต่อคู่และสังคม จึงอยากให้ทุกคนเริ่มที่การมีเพศสัมพันธ์ที่ปลอดภัย ด้วยการ ใช้ถุงยางอนามัย (Use Condom) อย่างถูกวิธีทุกครั้งที่มีเพศสัมพันธ์ โดยเลือกให้ถูกไซส์ ใช้ให้ถูกสเต็ป เก็บและทิ้งให้ถูกวิธี ซึ่งถุงยางอนามัยเป็นอุปกรณ์ชนิดเดียวที่สามารถป้องกันได้ทั้งเชื้อเอชไอวี โรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ และการตั้งครรภ์ที่ไม่พร้อม การใช้ถุงยางอนามัยไม่ได้หมายความว่าไม่เชื่อใจต่อกัน แต่เป็นการแสดงความรับผิดชอบต่อตนเองและคู่ เพียงเริ่มต้นด้วยการหยิบถุงยางอนามัยมาใช้ทุกครั้งที่มีเพศสัมพันธ์ก็จะทำให้คุณมีรักที่ปลอดภัย ไร้โรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ได้  ข้อมูลจาก : กองโรคเอดส์และโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข วันที่ 10 กุมภาพันธ์ 2565

สธ.ชัยนาทเตือน ระวังโรคไข้เลือดออก หลังพบผู้ป่วยเพิ่มขึ้น หากมีไข้สูงลอยมากกว่า 2 วัน ให้รีบพบแพทย์ทันที

วันที่ 7 กุมภาพันธ์ 2565 นายแพทย์พัลลภ  ยอดศิรจินดา นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดชัยนาท เปิดเผยว่า สถานการณ์โรคไข้เลือดออก ขณะนี้ในจังหวัดชัยนาทพบมีการแพร่ระบาดสูงขึ้น สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดชัยนาท ได้สั่งการให้ทุกหน่วยงานในสังกัดเฝ้าระวังอย่างใกล้ชิด  โดยประชาสัมพันธ์ขอความร่วมมือประชาชนร่วมกันสำรวจจุดเสี่ยงแหล่งเพาะพันธุ์ลูกน้ำยุงลาย สำรวจพื้นที่ที่มีน้ำขัง โดยเน้นที่ภาชนะใส่น้ำหรือน้ำที่ตกค้างตามเศษขยะหรือภาชนะต่างๆ เนื่องจากยุงลายชอบวางไข่ในภาชนะที่มีน้ำใสและนิ่งไม่ใช่บ่อน้ำหรือแหล่งน้ำขนาดใหญ่ โดยร่วมกันกำจัดแหล่งเพาะพันธุ์ยุงลายในบริเวณรอบๆ ตัวบ้านและในชุมชน พร้อมแนะให้ประชาชนเก็บบ้าน เก็บขยะ เก็บน้ำ ตามมาตรการ “3 เก็บ ป้องกัน 3 โรค” ดังนี้ 1.เก็บบ้านให้สะอาด เช่น พับเก็บเสื้อผ้าใส่ในตู้หรือแขวนให้เรียบร้อย เพื่อไม่ให้มีมุมอับทึบเป็นที่เกาะพักของยุง 2.เก็บขยะที่อยู่บริเวณรอบบ้าน เก็บภาชนะใส่อาหารหรือน้ำดื่มที่ทิ้งไว้ใส่ถุงดำ และนำไปทิ้งลงถังขยะ เพื่อไม่ให้เป็นแหล่งเพาะพันธุ์ยุง และ 3.เก็บน้ำ ภาชนะที่ใส่น้ำเพื่ออุปโภค บริโภค ต้องปิดฝาให้มิดชิด ล้างคว่ำภาชนะใส่น้ำ และเปลี่ยนน้ำในกระถางหรือแจกันทุกสัปดาห์ ป้องกันไม่ให้ยุงลายวางไข่ ซึ่งจะสามารถป้องกันได้ 3 โรค คือ 1.โรคไข้เลือดออก 2.โรคติดเชื้อไวรัสซิกา 3.โรคไข้ปวดข้อยุงลายหรือโรคชิคุนกุนยา นายแพทย์พัลลภ  กล่าวต่อว่า อาการเบื้องต้นของโรคไข้เลือดออกผู้ป่วยจะมีไข้สูง 2 วันอาการไม่ดีขึ้นอ่อนเพลียซึมลงปัสสาวะสีเข้ม หรือไข้ลดแล้วแต่มีอาการแย่ลงซึมกว่าเดิมเบื่ออาหาร ขอให้สงสัยว่าเป็นไข้เลือดออกและรีบไปพบแพทย์ที่โรงพยาบาลใกล้บ้านทันทีและห้ามซื้อยามารับประทานเอง ผู้ป่วยมีอาการคล้ายไข้หวัดทั่วไปเช่นปวดศีรษะตัวร้อนคลื่นไส้อาเจียนอ่อนเพลียปวดเมื่อยกล้ามเนื้อตามตัวสำหรับอาการเด่นคือไข้สูงเฉียบพลันแต่ส่วนมากไม่มีน้ำมูกไม่ไออาจมีจุดเลือดออกเล็กๆ สำหรับผู้ป่วยที่มีอาการรุนแรงจะมีเลือดออกที่อวัยวะภายในร่างกายเช่นทางเดินอาหารตับม้ามหรือไตวายมีโอกาสเกิดภาวะช็อกหากไม่ได้รับการรักษาอย่างถูกต้องทันท่วงทีอาจเสียชีวิตได้ การป้องกันคืออย่าให้ถูกยุงกัด โดยการทายากันยุง นอนในมุ้ง และควรกำจัดแหล่งเพาะพันธุ์ของยุง

ตำรวจสอบสวนกลาง ร่วม อย.ทลายแหล่งผลิตไส้กรอกมรณะ

ตำรวจสอบสวนกลางร่วม อย.ทลายแหล่งผลิตไส้กรอกมรณะ ยึดของกลางกว่า 32 รายการ มูลค่ากว่า 700,000 บาท วันที่ 3 กุมภาพันธ์ 2565 กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง โดย พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก., พล.ต.ต.ณัฐศักดิ์ เชาวนาศัย รอง ผบช.ก., พล.ต.ต.อนันต์ นานาสมบัติ ผบก.ปคบ., พ.ต.อ.ธรากร เลิศพรเจริญ รอง ผบก.ปอท.รรท.รอง ผบก.ปคบ., พ.ต.อ.เนติ วงษ์กุหลาบ ผกก.4 บก.ปคบ., พ.ต.อ.นิทัศน์ แหวนประดับ ผกก.สภ.เมืองชลบุรี, สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา โดย นพ.ไพศาล ดั่นคุ้ม เลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา, นพ.วิทิต  สฤษฎีชัยกุล รองเลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา, น.ส.อรสุรางค์  ธีระวัฒน์ ผู้เชี่ยวชาญด้านมาตรฐานอาหาร ร่วมกันแถลงผลการปฏิบัติงาน กรณีจับกุมแหล่งผลิตไส้กรอกปนเปื้อนพื้นที่  จ.ชลบุรี ตรวจยึดของกลาง 32 รายการ มูลค่ากว่า 700,000 บาท   สามารถติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ >>https://oryor.com/อย/detail/media_news/2219 ไม่อยากพลาดข้อมูลข่าวสารสุขภาพดี ๆ จาก อย. มาเป็นเพื่อนไลน์กับเราได้ที่ Line : @FdaThai เพียงแค่คลิก https://line.me/R/ti/p/Hik9-DvLsP

สธ.ชัยนาท แนะประชาชนเลือกซื้อของไหว้ให้ปลอดภัยช่วงตรุษจีน ปี 2565 และขอความร่วมมือประชาชนเคร่งครัดมาตรการป้องกันโควิด-19 ขั้นสูงสุด

         วันที่ 27 มกราคม 2565 นายแพทย์พัลลภ ยอดศิรจินดา นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดชัยนาท เปิดเผยว่า อีกไม่กี่วันก็ถึงเทศกาลตรุษจีน  ในช่วงเทศกาลนั้นจะมีประชาชนชาวไทยเชื้อสายจีน ออกมาจับจ่ายซื้อสินค้า ทั้งผักสด ผลไม้ อาหารสดต่าง ๆ เพื่อที่จะนำไปใช้ไหว้บรรพบุรุษตามประเพณีตรุษจีน สิ่งที่สำคัญที่ตรวจพบกันทุกปี คือ ความปลอดภัยของอาหาร การเลือกซื้ออาหารสดต้องมีสภาพที่ปกติ เนื้อแน่น มีสีสม่ำเสมอตามธรรมชาติ และปราศจากกลิ่นที่น่ารังเกียจ ขนมต่าง ๆ     ที่จะนำมาเซ่นไหว้ควรเลือกขนมที่สีไม่ฉูดฉาด มีสี กลิ่นรสปกติ บรรจุอยู่ในภาชนะบรรจุที่สะอาด และไม่มีสีออกมาปนเปื้อนกับอาหาร การเลือกซื้อผักผลไม้สามารถลดการตกค้างของสารกำจัดศัตรูพืชได้ เช่น ล้างโดยใช้โซเดียม  ไบคาร์บอเนต (ผงฟู) และล้างน้ำสะอาดหลายๆครั้ง เปิดน้ำให้ไหลผ่านและใช้มือทำความสะอาดนาน     2 นาที หรือใช้ด่างทับทิมแช่ทิ้งไว้ประมาณ 10 นาที ระวังเรื่องธูปปักลงในอาหาร และผลไม้ขณะ        ทำการเซ่นไหว้ ซึ่งเป็นความเสี่ยงอันตรายต่อร่างกาย เนื่องจากก้านธูปมักเป็นสีย้อมผ้า ซึ่งจะมีสารเคมี เช่น สารตะกั่ว ปรอท สารหนู โครเมียม เป็นต้น อาจละลายลงในอาหาร ความร้อนไม่สามารถทำลายได้ เมื่อรับประทานเข้าไป เช่น สารปรอท อาจทำให้เกิดอาการคลื่นไส้อาเจียน ท้องเสีย และสะสมในร่างกาย เสี่ยงเกิดโรคมะเร็งในระยะยาวได้ จึงขอให้ปักธูปในกระถางแยกต่างหากจากของไหว้ เพื่อให้ความมั่นใจแก่ประชาชนที่จะบริโภคอาหารในช่วงเทศกาลตรุษจีน ว่ามีความปลอดภัยอย่างแน่นอน           นายแพทย์พัลลภ   กล่าวต่อว่า นอกจากนี้ ในช่วงเทศกาลตรุษจีน ยังเป็นการรวมตัวกันของญาติพี่น้อง เพื่อไหว้บรรพบุรุษ และรับประทานอาหารร่วมกัน หรือเดินทางไปไหว้ศาลเจ้า ซึ่งอาจมีผู้คนแออัด และเสี่ยงติดเชื้อโควิด-19 ได้ ดังนั้น ขอความร่วมมือประชาชนเคร่งครัดมาตรการป้องกันตนเองขั้นสูงสุด (Universal Prevention : UP) ในช่วงเทศกาลตรุษจีน โดยการเว้นระยะห่าง สวมหน้ากากอนามัยตลอดเวลา ล้างมือบ่อยๆ ด้วยน้ำสบู่หรือเจลแอลกอฮอล์ ไม่ใช้ของร่วมกับผู้อื่น รับประทานอาหารที่ปรุงสุกใหม่ หากรับประทานอาหารร่วมกัน ให้ใช้ช้อนกลางส่วนตัว