ข่าวประชาสัมพันธ์

ฅนชัยนาท ไม่ทอดทิ้งกัน "เมื่อท้อและสิ้นหวัง ต้องการกำลังใจ กลับไปชัยนาทบ้านเรา"ประชาชนที่มีภูมิลำเนาจังหวัดชัยนาท เป็นผู้ป่วยยืนยันติดโควิด-19 ที่มีความประสงค์จะกลับมารักษาที่จังหวัดชัยนาท ขอให้ประสานโรงพยาบาลตามภูมิลำเนาของท่าน เพื่อจัดเตรียมสถานที่และคำแนะนำก่อนการเดินทางทั้งนี้สามารถติดตามสถานการณ์โรคโควิด-19 ได้ที่เว็บไซต์สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดชัยนาท  และเพจ facebook : สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดชัยนาท  

อย.เตือนการโฆษณาเปิดรับพรีออเดอร์ชุดตรวจ COVID-19 Home Test นำเข้าจากประเทศเกาหลี ทางเฟซบุ๊ก อ้างได้รับรองจากเกาหลีและ WHO อย.ตรวจสอบแล้วไม่พบอนุญาตในไทย ระบุยังอนุญาตใช้แค่ชนิดตรวจแอนติเจนที่ได้รับอนุญาตจากอย.เท่านั้น จากกรณีพบการโฆษณาเปิดรับพรีออเดอร์ชุดตรวจ COVID-19 Home Test นำเข้าจากประเทศเกาหลี ทางเฟซบุ๊กชื่อ “Ser” @Ser Store Thailand โดยระบุว่า ได้รับการรับรองจากรัฐบาลประเทศเกาหลีใต้ และองค์การอนามัยโลก (WHO) เรียบร้อยแล้ว ใช้เวลาเพียง 15 นาทีรู้ผล วันนี้ (20 ก.ค.2564) สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) รายงานว่า จากการการตรวจสอบข้อเท็จจริง พบว่า เป็นข้อมูลลวง เนื่องจากชุดตรวจ COVID-19 Home Test ดังกล่าว ยังไม่ได้ขึ้นทะเบียน เพื่อประเมินประสิทธิภาพกับอย. จึงขอเตือนประชาชนอย่าหลงเชื่อซื้อชุดตรวจดังกล่าวมาใช้ เพราะมีความเสี่ยงที่จะแปลผลผิดพลาด   แหล่งข่าว : https://news.thaipbs.or.th/content/306229

     วันที่ 2 กรกฎาคม  2564  นพ.พัลลภ  ยอดศิรจินดา นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดชัยนาท เปิดเผยว่า สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดชัยนาท โดย งานเทคโนโลยีสารสนเทศ กลุ่มงานพัฒนายุทธศาสตร์สาธารณสุขได้จัดทำข้อมูล “ชัยนาทพร้อม” เพื่อให้ประชาชนชาวชัยนาทได้เข้าไป ตรวจสอบข้อมูลการจอง การฉีดวัคซีนโควิด-19  โดยเข้าไปตรวจสอบข้อมูลได้ที่เว็บไซต์สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดชัยนาท http://province.moph.go.th/chainat/ หรือ สแกน QR code และ เข้าไปที่เมนู “ชัยนาทพร้อม”โดยกรอกหมายเลขประจำตัวประชาชน 13 หลัก ท่านจะได้รับข้อมูลสถานการณ์รับ        วัคซีนโควิด-19 ได้แก่ ชนิดวัคซีนที่จะได้รับ หน่วยบริการที่ฉีดและ วันที่ฉีด นอกจากนี้ยังสามารถตรวจสอบรายละเอียดการให้บริการวัคซีนโควิด-19 ในภาพรวมของจังหวัดชัยนาทได้อีกด้วย      นพ.พัลลภ  ยอดศิรจินดา กล่าวเพิ่มเติมว่า  จังหวัดชัยนาท ได้ฉีดวัคซีนโควิด-19 ให้กับกลุ่มเป้าหมายต่างๆ ไปแล้ว 19,089 โดส  เป็นเข็มที่ 1 จำนวน 14,028 โดส และเข็มที่ 2 จำนวน  5,061 โดส โดยมียอดจองวัคซีนในทุกช่องทาง จำนวน 71,641 ราย โดยตั้งเป้าหมายจะฉีดให้ครอบคลุมประชากร จำนวน 200,000 คน จึงขอเชิญชวนประชาชนชาวจังหวัดชัยนาท ร่วมใจกันฉีดวัคซีนโควิด-19 เพื่อการกลับมาใช้ชีวิตตามปกติของคนชัยนาท มีอาชีพ มีงาน มีความเป็นอยู่ที่ดีเหมือนเดิม มีความปลอดภัยทั้งตัวท่านและครอบครัว สอบถามเพิ่มเติมได้ ที่ โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลทุกแห่ง หรือ อสม. ในพื้นที่ และสายด่วน สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดชัยนาท โทร.08 3069 1823 : 09 3008 5968 : 09 3008 5927

        วันนี้(วันที่ 2 มิถุนายน 2564)นพ.พัลลภ  ยอดศิรจินดา นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดชัยนาท เปิดเผยว่า จังหวัดชัยนาทจะเริ่มให้บริการฉีดวัคซีนให้แก่ ผู้สูงอายุที่มีอายุ 60 ปีขึ้นไปและประชาชนกลุ่มเสี่ยง 7 โรคเรื้อรัง ในวันที่ 7 มิถุนายน 2564 สถานที่รับการฉีดวัคซีนได้แก่ ศูนย์ผู้สูงอายุ เทศบาลเมืองชัยนาท โรงพยาบาลรวมแพทย์ชัยนาท โรงพยาบาลชุมชนทุกแห่งและสถานีอนามัยเฉลิมพระเกียรติ 60 พรรษา นวมินทราชินี ห้วยกรด อ.สรรคบุรี จ.ชัยนาท โดยจังหวัดชัยนาทจะได้รับการจัดสรรวัคซีนจากศูนย์บริหารสถานการณ์แพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (ศบค.)ในช่วงเดือนมิถุนายน 2564 ถึง เดือนกันยายน 2564 ตามจำนวนประชากรกลุ่มเป้าหมาย คาดว่าจะทะยอยฉีดให้กับประชาชนชาวชัยนาทเพื่อสร้างภูมิคุ้มกันหมู่ ครอบคลุมประชากร 160,000  คน ก่อนสิ้นปีนี โดยขอให้ประชาชนที่ลงทะเบียนไว้แล้วให้ไปรับบริการได้ตามวัน เวลา และสถานที่ที่จัดให้ ช่องทางการลงทะเบียน ได้แก่  ไลน์/ แอปพลิเคชันหมอพร้อม ผ่านทางอสม. และ โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล หรือติดต่อโรงพยาบาลชุมชนใกล้บ้าน เมื่อได้รับการฉีดวัคซีนแล้ว ข้อมูลทั้งหมดจะสู่ระบบฐานข้อมูล MOHP IC และหมอพร้อม จะติดตามอาการ นัดหมายฉีดครั้งที่ 2 รวมทั้งออกเอกสารการฉีดวัคซีนครบ 2 เข็ม         นพ.พัลลภ กล่าวเพิ่มเติมว่า เพื่อกระตุ้นให้ร่างกายสร้างภูมิคุ้มกัน เพื่อลดอาการเจ็บป่วย หรือลดความรุนแรงของโรคและลดการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19  ขอเชิญชวนประชาชนชาวจังหวัดชัยนาท ร่วมใจกันฉีดวัคซีนโควิด-19 เพื่อการกลับมาใช้ชีวิตตามปกติของคนชัยนาท มีอาชีพ มีงาน มีความเป็นอยู่ที่ดีเหมือนเดิม มีความปลอดภัยทั้งตัวท่านและครอบครัว สอบถามเพิ่มเติมได้ ที่ โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลทุกแห่ง หรือ อสม. ในพื้นที่ และสายด่วน สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดชัยนาท โทร.08 3069 1823 : 09 3008 5968 : 09 3008 5927

      วันนี้(วันที่ 12 พฤษภาคม 2564)นพ.พัลลภ  ยอดศิรจินดา นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดชัยนาท เปิดเผยว่า เพื่อกระตุ้นให้ร่างกายสร้างภูมิคุ้มกันขึ้นมา เพื่อลดอาการเจ็บป่วย หรือลดความรุนแรงของโรคและลดการแพร่ระบาดของโรค  จังหวัดชัยนาทขอเชิญชวนประชาชนกลุ่มเป้าหมายของจังหวัดชัยนาท ลงทะเบียนจองฉีดวัคซีนโควิด-19  ซึ่งในรอบนี้กลุ่มเป้าหมายเป็นผู้สูงอายุที่มีอายุ 60 ปีขึ้นไปและผู้ป่วย 7 กลุ่มโรคเรื้อรัง ได้แก่ โรคทางเดินหายใจเรื้อรัง โรคหัวใจและหลอดเลือด โรคไตวายเรื้อรัง โรคหลอดเลือดสมอง โรคมะเร็งทุกชนิด โรคเบาหวาน และผู้ที่อยู่ในภาวะโรคอ้วน หมายถึงผู้ที่มีน้ำหนักมากกว่า 100 กิโลกรัมหรือค่า BMI มากกว่า 35  สามารถทำการจองได้ที่ระบบไลน์ หรือแอพพลิเคชันหมอพร้อม โรงพยาบาลที่มีประวัติการรักษา รวมถึงรพ.สต.ใกล้บ้าน หรือ อสม. ในพื้นที่ ซึ่งจากฐานข้อมูล MOPH Immunization กระทรวง สาธารณสุข ณ วันที่ 12 พฤษภาคม 2564 จังหวัดชัยนาท มีผู้ลงทะเบียนฉีดวัคซีนโควิด-19 แล้ว ผ่านระบบหมอพร้อม จำนวน 2,099 คน และจองผ่านโรงพยาบาล รพ.สต. และอสม. อีกจำนวน 895 คน รวมสะสมทั้งหมด 2,994 คน โดยจะเริ่มฉีดวัคซีนได้ตั้งแต่วันที่ 7 มิถุนายน 2564 เป็นต้นไป         นพ.พัลลภ  กล่าวเพิ่มเติมว่า สำหรับวิธีลงทะเบียนจองฉีดวัคซีนโควิด-19 ผ่านไลน์หมอพร้อม หรือ แอพพลิเคชันหมอพร้อม สามารถใส่หมายเลขบัตรประจำตัวประชาชน  เพื่อตรวจสอบสิทธิ์การลงทะเบียน หากไม่มีข้อมูลในระบบต้องกรอกข้อมูลส่วนตัว และบันทึกในระบบก่อน หากเป็นผู้มีสิทธิ์ฉีดวัคซีนระบบจะมีปุ่มจองปรากฏขึ้น ให้กดเข้าไปเพื่อรับสิทธิ์หากมีความประสงค์ในการรับวัคซีนโควิด-19 โดยต้องบันทึกข้อมูลการคัดกรองเบื้องต้น ที่เป็นข้อมูลตามเป็นความจริงของผู้รับวัคซีนเท่านั้น ต่อจากนั้นระบุสถานที่ วัน และเวลาจองฉีดวัคซีน และกดยืนยัน เมื่อลงทะเบียนรับวัคซีนเรียบร้อยจะมีข้อความแจ้งยืนยันลงทะเบียนรับวัคซีน โดยก่อนถึงวัดนัดหมาย 1 วัน จะได้รับข้อความแจ้งเตือนการฉีดวัคซีนโควิด-19 กรณีลงทะเบียนให้ผู้สูงอายุในบ้าน สามารถเพิ่มคนในครอบครัว โดยกดที่ปุ่มเพิ่มบุคคลอื่น จากนั้นทำการระบุความสัมพันธ์ของคนในครอบครัว จากนั้นกรอกเลขบัตรประชาชนและข้อมูลในระบบให้ครบถ้วน ส่วนกลุ่มประชาชนทั่วไป ที่มีอายุ 18-59 ปี จะเปิดให้ลงทะเบียนจองฉีดวัคซีนตั้งแต่เดือนกรกฎาคมเป็นต้นไป ในช่องทางเดียวกัน หากประชาชนมีข้อสงสัย สอบถามเพิ่มเติมได้ ที่ โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลทุกแห่ง หรือ อสม. ในพื้นที่

หลักสูตรความรู้ด้านกระบวนการคุณภาพตามมาตรฐาน HA แบบ E - learning

ชมรมพยาบาลศัลยกรรมอุบัติเหตุแห่งประเทศไทย และฝ่ายพยาบาลโรงพยาบาลเจ้าพระยาอภัยภูเบศร จังหวัดปราจีนบุรี ขอเชิญพยาบาลผู้ปฏิบัติหน้าที่ในการดูแลผู้บาดเจ็บจากอุบัติเหตุเข้าร่วมอบรมระยะสั้น

ฝ่ายบริการพยาบาล คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ ขอเชิญส่งพยาบาลเข้าร่วมประชุมวิชาการ

ด้วยชมรมพยาบาลศัลยกรรมอุบัติเหตุแห่งประเทศไทยและฝ่ายการพยาบาล โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทย กรุงเทพมหานคร ขอเชิญพยาบาลผู้ปฏิบัติหน้าที่ในการดูแลผู้บาดเจ็บจากอุบัติเหตุ เข้าร่วมอบรมระยะสั้น

ขอเชิญเข้าร่วมอบรมเชิงปฏิบัติการการวิเคราะห์ข้อมูลโรงพยาบาลขั้นพื้นฐาน และขั้นสูง  ผู้สนใจสามารถส่งแบบตอบรับเข้าร่วมอบรมได้ภายในวันที่ 7 พฤษภาคม 2564 รายละเอียดตามเอกสารที่แนบมาพร้อมนี้

             วันนี้(วันที่ 30 มีนาคม 2564) นพ.พัลลภ  ยอดศิรจินดา นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดชัยนาท  เปิดเผยว่า ช่วงนี้เป็นฤดูร้อนอากาศร้อนจัด โรคลมแดดนี้ เป็นอาการที่เกิดจากการได้รับความร้อนมากเกิน อาการสำคัญ ได้แก่ ตัวร้อนจัด ชีพจรเต้นเร็ว กระสับกระส่าย ระดับความรู้สึกตัวลดลง หมดสติ ชักเกร็ง โดยกลไกการทำงานของร่างกายหลังจากที่ได้รับความร้อน จะมีการปรับตัวโดยส่งน้ำหรือเลือดไปเลี้ยงอวัยวะภายใน เช่น สมอง ตับ และกล้ามเนื้อ เป็นต้น ทำให้ผิวหนังขาดน้ำไปหล่อเลี้ยง จึงไม่สามารถระบายความร้อนออกจากร่างกายได้ ทำให้อุณหภูมิร่างกายสูงขึ้นเรื่อยๆ  สัญญาณสำคัญของโรคนี้คือ ไม่มีเหงื่อออก ตัวร้อนจัด ผู้ที่เป็นจะกระหายน้ำมาก ปวดศีรษะ มึนงง วิงเวียน คลื่นไส้ หายใจเร็ว อาเจียน ซึ่งต่างจากการเป็นลมแดดทั่วๆ ไป ที่จะพบมีเหงื่อออกด้วย เมื่อเกิดอาการดังกล่าวจะต้องรีบหยุดพัก ถ้าไม่ได้รับการดูแลรักษาทันท่วงทีจะทำให้เสียชีวิตได้               นพ.พัลลภ  กล่าวต่อ การช่วยเหลือผู้ที่มีอาการดังกล่าว ให้นำผู้ป่วยเข้าร่ม จัดให้นอนราบ   คลายเสื้อผ้าออก ใช้ผ้าชุบน้ำเย็นประคบตามร่างกาย  ใช้พัดลมช่วยเป่าระบายความร้อน หรือเทน้ำเย็นราดลงบนตัวเลย เพื่อลดอุณหภูมิของร่างกายให้ต่ำลงโดยเร็วที่สุด และรีบนำส่งโรงพยาบาลเพื่อรับการรักษาทันทีประชาชนที่เป็นกลุ่มเสี่ยงร่างกายขาดน้ำได้แก่  เด็ก ผู้สูงอายุ เนื่องจากร่างกายไม่สามารถระบายความร้อนได้ดีเท่าคนหนุ่มสาว ผู้ที่มีโรคประจำตัวได้แก่ โรคความดันโลหิตสูง ที่ต้องกินยาควบคุมความดัน เช่น ยาขับปัสสาวะ ซึ่งมีผลขับสารโซเดียมออกจากร่างกาย ทำให้มีโอกาสเกิดความผิดปกติของระดับเกลือแร่ได้เร็วกว่าผู้อื่น รวมทั้งผู้ที่ผู้ที่เป็นโรคอ้วน หรือผู้ที่อดนอน เนื่องจากจะทำให้ร่างกายตอบสนองต่อความร้อนที่ได้รับช้ากว่าปกติ ส่วนผู้ที่ดื่มสุรา ร่างกายจะมีโอกาสสูญเสียน้ำและเกลือแร่สูงกว่าผู้ที่ไม่ได้ดื่ม เพื่อขับแอลกอฮอล์ออกจากร่างกาย การปรับสภาพร่างกายเพื่อป้องกันอันตรายในช่วงที่มีอากาศร้อนจัด ที่สำคัญที่สุดคือการดื่มน้ำสะอาดให้เพียงพอ โดยปกติควรดื่มน้ำให้ได้ 2 ลิตรต่อวัน เพราะน้ำเป็นตัวควบคุมอุณหภูมิของร่างกาย ส่วนผู้ที่ออกกำลังกายเสียเหงื่อมากๆ ควรกินอาหารที่มีโพแทสเซียม เช่น น้ำผลไม้ หรือผลไม้ต่างๆ เป็นประจำด้วยหากมีอาการดังกล่าว โทร.1669

ช่องทางการลงทะเบียนเปลี่ยนหน่วยบริการประจำ (ย้ายสิทธิ ลงทะเบียนสิทธิ และ ตรวจสอบสิทธิ)        1. ติดต่อด้วยตนเองที่จุดรับลงทะเบียน โดยติดต่อ รพ.สต. หรือ รพ.ของรัฐ ใกล้บ้านในเวลาทำการ        2. ผ่านระบบออนไลน์ทางมือถือ           - Application สปสช. ดาวน์โหลดฟรี ไม่มีค่าใช้จ่าย รองรับได้ทั้งระบบ Android และระบบ ios           - Line สปสช. พิมพ์ค้นหา Line ID @nhso เปลี่ยนหน่วยบริการ หรือ ตรวจสอบสิทธิได้ ผู้ใช้สิทธิหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ(สิทธิบัตรทอง) สามารถลงทะเบียนเปลี่ยนหน่วยบริการประจำ ได้ 4 ครั้ง/ปี เมื่อทำการ ลงทะเบียน/ย้ายสิทธิ ก็สามารถใช้สิทธิทันที ไม่ต้องรอ 15 วัน เริ่มตั้งแต่ วันที่ 1 มกราคม 2564 เป็นต้นไป             ** สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม สายด่วน สปสช. โทร.1330